ประโยชน์ของถั่วแดงต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในปัจจุบันนี้ เกษตรกรของไทยนิยมเพาะปลูกถั่วแดงเพื่อทำรายได้พิเศษต่างหากจากการที่ปลูกเป็นพืชหมุนเวียนเพื่อพัฒนาดินที่มีปัญหาเรื่องธาตุอาหารในดินให้กลับสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้ง การสร้างรายได้จำนวนไม่น้อย อีกทั้งส่งออกขายไปยังต่างประเทศ เงินตราเหล่านั้นมีการหมุนเวียนเป็นรายได้ประชากร นับว่าช่วยเสริมเศรษฐกิจไทยให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ถั่วแดงจึงจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่ง 2. ประโยชน์ของถั่วแดงเพื่อการรับประทาน เนื่องจากถั่วแดงสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ทั้งนำไปประกอบเป็นเมล็ด และนำไปดัดแปลง เช่นนำไปทำไส้ขนมปังชนิดต่างๆ สรรพคุณของถั่วแดง สรรพคุณของถั่วแดง มีอยู่หลายด้าน อาจแบ่งได้ตามหมวดหมู่ดังนี้ 1. สรรพคุณของถั่วแดงด้านคุณค่าทางโภชนาการ 1. 1 ถั่วแดงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของผู้คนมาเป็นเวลาช้านาน ในอดีตอาจจะเน้นหนักในเรื่องของสารอาหาร เพราะในถั่วแดงมีโปรตีนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่รับประทานมังสวิรัติมักนำถั่วไปปรุงเป็นอาหารเพื่อให้ได้รับโปรตีนครบถ้วนแทนการรับประทานเนื้อสัตว์ ซึ่งนับว่าสามารถทดแทนกันได้ดีทีเดียว 1. 2 ถั่วแดงมีคาร์โบไฮเดรต จึงเป็นอาหารที่ให้พลังงาน รับประทานได้อิ่มเร็ว 1.
29 กรัม น้ำ 11. 75 กรัม น้ำตาล 2. 1 กรัม เส้นใย 15. 2 กรัม ไขมัน 1. 06 กรัม โปรตีน 22. 53 กรัม วิตามินบี 1 0. 608 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0. 215 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 2. 11 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0. 397 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 394 ไมโครกรัม วิตามินซี 4. 5 มิลลิกรัม วิตามินอี 0. 21 มิลลิกรัม วิตามินเค 5. 6 ไมโครกรัม ธาตุแคลเซียม 83 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 6. 69 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 138 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 406 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 1, 359 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 12 มิลลิกรัม ธาตุสังกะสี 2.
เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ 2. นำถั่วดำ ไข่ไก่ ผงโกโก้ สารสกัดจากหญ้าหวาน เกลือป่น ผงฟู เบกกิ้งโซดา น้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นให้เนียนสวยงาม 3. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ หรือถาดทนความร้อนที่จะเอาเข้าเตาอบ (ในสูตรไม่ได้ทาเนยหรือรองกระดาษไข) โรยช็อกโกแลตชิพลงไป หรือจะผสมลงไปในเนื้อขนมเลยก็ได้ (ในสูตรผสมช็อกโกแลตชิพลงไปในเนื้อบราวนี่) สุดท้ายก็โรยอัลมอนด์ 4. นำเข้าเตาอบประมาณ 20-25 นาที (เช็กความสุกด้วยไม้จิ้มฟัน ถ้าไม่มีเนื้อขนมติดไม้ออกมาเป็นอันใช้ได้) ข้อควรระวังอย่าอบนานไปเพราะเนื้อขนมจะแห้ง ตัดออกมาใส่จานเสิร์ฟ + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บราวนี่ถั่วดำไร้แป้ง ขนมหวานแต่ไม่อ้วน คนลดน้ำหนักมีเฮ +++++++++++++ 4. ซุปถั่วดำ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมาดูแลสุขภาพของคนพิเศษด้วยเมนูซุปถั่วดำ สูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine ส่วนผสมมีแค่ถั่วดำกับน้ำเปล่า ต้มจนถั่วเปื่อยและน้ำข้นตามชอบ ส่วนผสม ซุปถั่วดำ • ถั่วดำ 250 กรัม • น้ำเปล่า 10 ถ้วย • เกลือป่น (เล็กน้อย) • พริกไทยป่น (เล็กน้อย) วิธีทำซุปถั่วดำ 1. ต้มถั่วดำกับน้ำด้วยไฟอ่อน ต้มไปเรื่อย ๆ จนน้ำข้น 2. ปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่นเล็กน้อยตักเสิร์ฟ + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 3 สูตรอาหารต้านมะเร็งรังไข่ กินป้องกันไว้ห่างไกลโรคร้าย +++++++++++++ 5.
ตือคาโค ขนมขาหมู ปาร์ตี้นี้ของทอดต้องมา พบกับเมนูตือคาโค หรือขนมขาหมู สูตรจาก คุณ TaYo76 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับแป้งผสมกับถั่วดำและเผือก ทอดจนสุกแล้วหั่นชิ้นจัดเสิร์ฟกับน้ำจิ้มถั่วคั่ว ส่วนผสม ตือคาโค • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง • น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง • กะทิ 1 ถ้วยตวง • เผือกหั่นเป็นเส้น 1/2 หัว • ถั่วดำต้มสุก 3/4 ถ้วยตวง • เกลือ 1 ช้อนชา • น้ำมันพืช (สำหรับทอด) ส่วนผสม น้ำจิ้มตือคาโค • น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 1+1/2 ช้อนโต๊ะ • น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง • น้ำตาลปี๊บ 3-4 ช้อนโต๊ะพูน • พริกแดงโขลกหยาบ 4-5 เม็ด • ถั่วลิสงคั่วโขลก 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำตือคาโค 1. นำแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำเปล่า กะทิ เผือกหั่น และถั่วดำต้มสุก ใส่ลงไปในภาชนะ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมเกลือ ตักส่วนผสมใส่กระบวยแล้วนำลงไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ประมาณ 5-7 นาทีจนสุกเหลือง ตักขึ้นมาใส่ภาชนะ 2. ทำน้ำจิ้มตือคาโค โดยใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และพริกแดงโขลกลงไป คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยแล้วใส่ถั่วลิสง เสิร์ฟกับตือคาโค + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ตือคาโค ขนมขาหมู เมนูของทอดเจหากินยากพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด +++++++++++++ 6.
เมื่อวานมีแม้วมาหาเจ้านายที่ออฟฟิศ พอเสร็จธุระก็ถามเจ้านายฉันว่า "กิ๋นถั่วก่อครับ" ถั่วอะไร(วะ)? ไม่รู้สิ ไม่สนใจ จนเขาเดินกลับเข้ามาอีกทีนั่นล่ะ ถั่วแดงเม็ดโตอวบอิ่มตั้งหนึ่งถุงเชียวนะที่เขายื่นให้ ฉันก็เอาไปยื่นให้แม่บ้านต่ออีกที แต่ก่อนกลับบ้าน.. เพื่อนเดินเข้ามาบอกว่า "พรุ่งนี้เราทำถั่วแดงหวานเย็นกันนะ" ถามพอเป็นพิธีว่า "แล้วใครจะทำ? " เธอตอบอย่างไม่คิดเลยว่า "ต้อมไง" ห๊า....... ว่าแล้วเชียว ว่าแต่เขาต้มถั่วแดงกันยังไงเหรอ? เกิดมายังไม่เคยทำเลยนี่ แต่ไม่น่าจะยากนะ มาดูกัน มีอะไรบ้าง 1. ถั่วแดง (เม็ดอวบอิ่ม สวยเซ็กซี่) 2. น้ำตาลกรวด หรือน้ำตาลทรายแดง 3. กะทิสด / กะทิกระป๋อง / นมสด นมข้นหวาน หรือนมข้นจืดก็ได้ทั้งนั้นตามใจชอบ 4. น้ำแข็งทุบ 5. เกลือ (นิดหน่อย) วิธีทำ 1. ล้างถั่วแดงให้สะอาด และแช่น้ำค้างคืนไว้ 2. นำถั่วแดง(ที่ผ่านการลงอ่างหนึ่งคืน)มาต้มกับน้ำจนถั่วสุกนิ่ม ถ้าต้มกับใบเตยก็คงจะได้กลิ่นหอมใบเตยฟุ้ง แต่นี่ฉันอยู่ที่ทำงานนะ จะไปหาใบเตยมาจากไหนล่ะ ใส่น้ำตาล ใส่เกลือลงไปตัดกับรสหวานๆ ยกลงจากเตา ทิ้งไว้ให้เย็น 3. บางตำราก็ให้ตักเอาแต่เม็ดถั่วแดงใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็ง ราดด้วยนมข้นหวานหรือกะทิ หรือน้ำแดงเฮลบลูบอย แต่ฉันชอบน้ำต้มที่มีรสหวานๆ เค็มๆ มากกว่า ของหวานวันนี้ไม่ยากเลยนะคะ (จะยากยังไงล่ะ ก็พี่แม่บ้านเป็นคนทำ แฮ่ะๆ) เหมาะกับอากาศร้อนๆ เสียแต่ว่าที่ออฟฟิศฉันตอนนี้อากาศมันดูหม่นๆ มัวๆ ครึ้มๆ ไปนิด แต่ช่างเถอะ.. ยังไงถั่วแดงหวานเย็นวันนี้ก็อร่อย ของอร่อยๆ ทานตอนไหนก็อร่อยนี่เนอะ รู้ไหมว่าถั่วแดงมีประโยชน์อะไร?
5 ช่วยบำรุงหัวใจ มีการสูบฉีดโลหิตดี และลดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหัวใจ 2. 6 ในสตรีซึ่งต้องเสียเลือดในทุกๆ เดือน การรับประทานถั่วแดงช่วยบำรุงเลือดทำให้แข็งแรงขึ้น การให้พลังงานของถั่วแดง ในถั่วแดง100 กรัม ให้พลังงาน 337 กิโลแคลอรี่ ถั่วแดง ช่วยลดความอ้วนได้หรือไม่? ใน ถั่วแดง มีคุณค่า โปรตีนสูง แต่ไขมันอิ่มตัวน้อย ด้วยคุณสมบัติที่สำคัญนี้เมื่อทานเข้าไป ช่วยร่างกายสามารถเผาผลาญอาหารได้ดี อีกทั้งมีเส้นใยอาหารสูง ช่วยระบบย่อยอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขื้น ช่วยขับถ่ายง่าย การดูดซึมอาหารไปใช้ได้ดี เป็นเหตุผลที่ทำให้ ถั่วแดงช่วยเรื่องลดความอ้วน ลดน้ำหนักได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเลือกรับประทานถั่วแดงร่วมกับอาหารที่มีเส้นใยอาหารอื่นๆ ซึ่งสามารถทำให้อิ่มและรับประทานอาหารอื่นได้น้อยลง สามารถแก้นิสัยการกินจุบจิบไปได้ เมื่อไม่มีอาหารส่วนเกิน น้ำหนักก็จะลดลง สุขภาพก็ดีในระยะยาวอีกด้วย "ถั่วแดง" ทำอะไรได้บ้าง?