๒๔๘๙ ที่ให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการ ตั้งพรรคการเมือง แต่ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล และไม่มีสินทรัพย์ของตนเองตามกฎหมาย ทั้งนี้ เพราะยังไม่มีกฎหมายพรรคการเมืองที่ออกมารองรับสถานภาพของพรรคเหล่านี้ หลังจากการก่อตัวขึ้นมาได้เพียงไม่กี่ปี พรรคการเมืองไทยเริ่มเผชิญกับปัญหาความอยู่รอดเป็นครั้งแรก เมื่อทหารกลุ่มหนึ่ง ที่เรียกตัวเองว่า คณะรัฐประหาร ได้ยึดอำนาจใน พ. ศ.
กกต. ไม่พบพรรคไทยพัฒนา อยู่ในระบบ แม้โลกโซเชี่ยลเผยคนดังร่วมวงเพียบ ฮึ่มผู้ใดทำให้เข้าใจเป็นพรรคการเมือง มีโทษทั้งจำทั้งปรับ เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด เมื่อวันที่ 2 พ. ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อโซเชี่ยลต่างๆ ได้เผยแพร่เอกสารการจัดตั้ง พรรคไทยพัฒนา โดยมีภาพเครื่องหมาย ชื่อย่อ นโยบายพรรค รวมทั้งรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งปรากฏชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายวงการในสังคม ทั้งแวดวงการเมือง นักธุรกิจ ศิลปิน ดำรงตำแหน่งต่างๆ อาทิ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นหัวหน้าพรรค นายวิรไท สันติประภพ นายยืนยง โอภากุล เป็นรองหัวหน้าพรรค นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นเลขาธิการพรรค พล. อ. ธรรมนูญ วิถี พล. ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา ร. สงกรานต์ เตชะณรงค์ นางนวลพรรณ ล่ำซำ น. ส. เขมนิจ จามิกรณ์ นายเจษฎาภรณ์ ผลดี เป็นกรรมการบริหารพรรค อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อได้ตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ที่เป็นผู้รับจดจัดตั้งพรรค พบว่า ไม่มีชื่อพรรคดังกล่าวอยู่ในระบบพรรคการเมืองที่กำลังดำเนินกิจการ โดยชื่อพรรคไทยพัฒนา เคยมีการยื่นขอจดตั้ง แต่ถูกยุบไปและพ้นระยะเวลา 20 ปีแล้ว ดังนั้น หากมีการยื่นขอจดตั้งพรรคใหม่ในชื่อดังกล่าว ก็ทำได้ แต่ขณะนี้ไม่พบว่ามีใครมายื่นขอจดตั้งเป็นพรรคการเมือง ทั้งนี้ ตาม พ.
๒๕๓๑ ถึงแม้ว่าจะมีการยึดอำนาจ และการยุบเลิกรัฐธรรมนูญโดยกลุ่มทหารที่เรียกตนเองว่า คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ ร. ส. ช. ใน พ. ๒๕๓๔ ก็ตาม การพัฒนาของพรรคการเมืองไทยก็ไม่ได้หยุดชะงักไป เพราะไม่มีการประกาศยกเลิกพรรคการเมืองแต่อย่างใด นอกจากนั้น การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมืองในระยะเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็นการประกาศใช้ รัฐธรรมนูญใหม่ และการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ใน พ. ๒๕๓๔ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ตามมา หรือการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับ พ. ๒๕๔๐ พระราชบัญญัติพรรคการเมืองและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา ของพรรคการเมืองแต่อย่างใด แต่กลับมีส่วนช่วยปรับปรุงคุณภาพของพรรคการเมืองให้ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กับพรรคการเมืองแต่ละพรรคในระยะนี้เช่น ความสำเร็จหรือความล้มเหลว ในการส่งสมาชิกเข้าสมัครรับเลือกตั้ง การยุบเลิกพรรค และการควบรวมกับพรรคอื่น จึงขึ้นอยู่กับความสามารถ ของพรรคการเมืองเองเป็นหลัก